การต่อสู้สำหรับสงครามรถยนต์นั่งส่วนบุคคลบนโลกใบน
แนวทางในการต่อสู้สำหรับสงครามรถยนต์นั่งส่วนบุคคลบนโลกใบนี้แบ่งเป็นสองพวก คือ ฝ่ายญี่ปุ่น (ไม่รวมมาสด้า) และฝั่งโลกตะวันตก
ฝ่ายญี่ปุ่นนำทีมด้วย Toyota
มาด้วยด้วย HSD (Hybrid Synergy Drive) หรือการพ่วงมอเตอร์ไฟฟ้าเข้ากับเครื่องยนต์ด้วยอาจถึงขั้นดับเครื่องยนต์แล้วใช้มอเตอร์วิ่งอย่างเดียวเลยก็มี
ตามด้วย Honda
ที่มาพร้อมกับ IMA (Integrated Motor Assist) ซึ่งไม่ได้ช่วยกันเต็ม ๆ แบบของ Toyota แต่จะทำงานไปกับเครื่องเพื่อลดภาระ (load) ของเครื่องเพื่อไม่ให้บริโภคเชื้อเพลิงมากเกินไป
ตามห่าง ๆ ด้วย Nissan
ที่ทำ Hybrid กับระบบส่งกำลังคลัชคู่ !!! ต่างจาก 2 ค่ายบนที่ทำบน CVT แต่ตอนนี้ยังไม่มีข้อมูลเปิดเผยมากมาย
แต่โดยรวมแล้วเทคโนโลยีมากสุดที่ใช้ก็มีแค่ ระบบฉีดเชื้อเพลิงตรงเข้าห้องเผาไหม้ (Direct Injection) ดีกว่านั้นหน่อยคือระบบมอเตอร์ช่วยกดวาล์ว (Valvematic) ของ Toyota เท่านั้นเอง
ฝั่งโลกตะวันตกเป็นอะไรที่เทคโนโลยีเจริญก้าวหน้ามาก ๆ ในด้านการลดปริมาตรกระบอกสูบแต่พลังกำลังดีกว่าเดิมหรือเท่าเดิม และอ่านไปเรื่อย ๆ จะรู้เองว่า ทำไมผมถึงแยก Mazda มาอยู่ในกลุ่มนี้
เรื่องด้วยเจ้าใหญ่ของเราเลย Volkswagen Group (Volkswagen, Seat และ Skoda)
เปิดความแรงสะใจด้วยกันเครื่องยนต์ Twincharger (Turbocharger+Supercharger) เป็นการนำข้อดีของระบบอัดอากาศทั้ง 2 แบบมาผสานกันเพื่อให้ได้แรงบิดของเครื่องยนต์ที่ต่อเนื่องเป็นผลให้อัตราการบริโภคเชื้อเพลิงน้อยลงอย่างเห็นได้ชัด รวมทั้งมีการงัดนวตกรรมส่วนอื่น ๆ ที่ไม่ใช่เครื่องยนต์มาต่อสู้ด้วย นั่นคือ BlueMotion ที่มีหลักการสำคัญ ๆ อยู่คือ ลดความฝืดในการหมุน หลักอากาศพลศาสตร์ หยุดเครื่องเมื่อไม่จำเป็นและนำกำลังสูญเสียที่เกิดจากส่วนต่อพ่วงของเครื่องยนต์ เช่น เครื่องปั่นไฟ เป็นต้น
PSA Group (Peugeot และ Citroen)
ไม่ได้ใช้เทคนิคอะไรมากมายนอกจากใช้ Turbocharger แรงดันสูง ๆ เพื่อมาดึงพลังจากเครื่องเล็ก ๆ ดูธรรมดาแต่ใช้ประโยชน์ได้ดีนะ รวมทั้งเครื่องยนต์ดีเซลตระกูล FAP เน้นการกรองสสารที่ไม่จำเป็นออกจากเชื้อเพลิงและลดปริมาณสสารที่จะถูกปล่อยออกมาทางท่อไอเสียเพื่อลดมลพิษอีกด้วย
BMW
จะคล้าย ๆ กับ Volkswagen โดยมีการ ลดความฝืดในการหมุน หยุดเครื่องเมื่อไม่จำเป็น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลักอากาศพลศาสตร์ที่ BMW ให้ความสำคัญมาก (จริง ๆ แล้ว BMW ก็มีความร่วมมือกับการพัฒนากับ PSA Group ไม่น้อย ทำให้ทั้ง 2 ค่ายมีเทคโนโลยีเครื่องยนต์ไม่ต่างกันมากเท่าไหร่) แถมให้อีกนิดที่ทำมาพร้อม ๆ กับ Daimler AG คือการใช้ Twinturbo
Fiat SPA (Fiat, Alfa Romeo และ Lancia) ไม่รวมจากฝ่าย Chrysler
ข้อมูลเบาบางมาก ขนาดในเว็บหลักเองยังไม่ค่อยมี จะมีที่น่าสนใจคือเครื่อง 875cc turbochared twinair ที่พึ่งได้รางวัล Engine of the year 2011 มาหมาด ๆ
Ford
ด้วยเครื่องยนต์ Ford เคยใช้เครื่องของ PSA Group มาแล้วจึงมีแนวทางที่คล้าย ๆ กันคือการใช้ Turbocharger แรงดันสูง ๆ และระบบฉีดเชื้อเพลิงเข้าห้องเผาไหม้ คล้าย
ปิดท้ายด้วยยี่ห้อที่นำด้านเทคโนโลยีมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว Mazda คำถามคือ ทำไมถึงมาอยู่กับพวกนี้ล่ะ ไม่ได้เกี่ยวกับว่าเคยถูก Ford ซื้อไปด้วย แต่สิ่งที่แยกคือ "มันไม่ได้ใช้ Hybrid เป็นหลัก" แต่มาทั้งคัน กล่าวคือ Mazda ไม่ได้สนแค่ว่าจะทำเครื่องยนต์ให้ดีอย่างไร แต่สนใจว่า จะทำรถทั้งคันให้ดีอย่างไร ตั้งแต่โครงสร้างตัวถัง เครื่องยนต์ ยันระบบส่งกำลัง ทั้ง ๆ ที่ Mazda โดน Ford ซื้อไปดอง แต่เมื่อ Mazda กลับมาอีกครั้งก็ได้สร้างความแตกตื่นให้กับวงการเครื่องยนต์สันดาปภายในด้วยเครื่องยนต์ Skyactive-G และ Skyactiv-D อีกครั้งโดยการทลายสิ่งที่หลาย ๆ ค่ายพยายามจะทำแล้วแต่ทำไม่ได้ คือ การเพิ่มแรงอัดจากเดิมที่เครื่องเบนซินอยู่รวม ๆ 8-10:1 และ 17,18:1 เป็น 14:1 ซึ่งนัดบว่าสูงมากสำหรับเครื่องบนซินและต่ำมากสำหรับเครื่องดีเซล เพื่อทำให้สามารถใช้การระเบิดของเชื้อเพลิงได้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น แลปรับปรุงระบบส่งกำลังเพื่อให้เกิดการสูญเสียกำลังน้อยลง รวมทั้งโครงสร้างตัวถังที่เบาลงด้วยเช่นกัน
แต่ Skyactiv เป็นแค่ของหยอกเล่นเท่านั้น จริง ๆ แล้ว Mazda และ GM ต่างข่งกันพัฒนาองจริงที่ไม่รู้จะออกมาเมื่อไหร่เพื่อพลิกโลกนี้ไว้แล้ว คือเครื่องยนต์ตระกูล HCCI (Homogeneous charge compression ignition) เป็นเครื่องยนต์ที่รวมข้อดีของเครื่องยนต์ดีเซลเข้ามาในเครื่องเบนซิน เมื่อวันนั้นมาถึง เราจะรู้กันว่าจุดสุดยอดของวัฐจักร Otto นั้นเป็นอย่างไร
ต้องขอบอกเลยว่า Reanult, GM (General Motor) และ Daimler AG (Mercedes-Benz) นั้นผมไม่มีข้อมูลเลยจริง ๆ และ ขอประทานโทษมา ณ ที่นี้ด้วยครับ ค่ายอื่น ๆ ที่ไม่ได้พูดถึงแสดงว่าเทคโนโลยีไม่ใหม่นะครับ มีมานานแล้วเลยไม่ค่อยน่าสนใจ
หากมีข้อมูลไหนขาดตกบกพร่องหรือผิดเพียนไปก็ขอประทานอภัยอีกครั้ง ณ ที่นี้ด้วยนะครับ อนุญาติให้นำไปเผยแพร่เต็มที่นะครับ (Credit หน่อยก็ดีนะครับ อิอิ) ขอให้ทุกคนเลือกรถที่ถูกใจนะครับ ขอคำส่งท้ายนิดนึงและกันว่า "รถดี ๆ น่ะ ไม่มีผลิตในไทยและขายในไทยหรอก จำไว้ 555"
Comments